ประวัติความเป็นมา
มุฮัมมัด อับดุฮ์ บิน ฮะซัน ค็อยรุลเลาะห์ เกิดที่อียิปต์ในปี ค.ศ. 1849 และเสียชีวิตที่อียิปต์เช่นกันในปี ค.ศ. 1905 รวมอายุได้ 56 ปี
ชื่อที่แท้จริงของเขาคือ มุฮัมมัด บิน อับดุฮ์ บิน ฮะซัน ค็อยรุลเลาะห์ มุฮัมมัด อับดุฮ์ นั้น เมื่อเขายังเยาว์วัยได้เรียนอัลกุรอานกับผู้ปกครองของเขา และปรากฏว่าเขามีความเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็ก มีรายงานว่า มุฮัมมัด อับดุฮ์ ท่องจำอัลกุรอานทั้งเล่มได้เมื่ออายุราว 12 ปี เขาได้ศึกษาต่อทางสายศาสนาที่มัสยิด “อะห์มะดี”ที่ตันตา และหลังจากนั้นก็ได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย อัล-อัซฮัร และขณะที่เขากำลังศึกษาอยู่ที่ อัล-อัซฮัร นั้น ก็มีผู้นำอิสลามคนหนึ่งมาเยือนอียิปต์ โดยถูกขับมาจากรัฐบาลอัฟฆานิสตาน ซึ่งก็คือ ญะมาลุดดีน อัล-อัฟฆานี นั่นเอง
มุฮัมมัด อับดุฮ์ เกิดรักชอบต่อญะมาลุดดีน อัล-อัฟฆานี ผู้นี้มากจนกล่าวได้ว่าชอบไปที่บ้านพักของเขาเพื่อไปฟังการพูดต่าง ๆ เกี่ยวกับปรัชญา , เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ หรือ แผนการปกครอง และเกี่ยวกับการต่อต้านลัทธิจักรพรรดินิยมเป็นประจำ ส่วนการศึกษาของเขาในอัล-อัซฮัร ก็เริ่มถูกรบกวน จนทำให้ทัศนะหรือความเข้าใจของเขาบิดเบือนไปจากคณาจารย์ในอัล-อัซฮัร
เขาอ่านหนังสือต่าง ๆ ของมั๊วะตะซีละห์ และหนังสือของกลุ่มผู้ถือเหตุผลในศาสนาอิสลามมากเกินไป ดังนั้นบรรดาอาจารย์ของเขาในอัล-อัซฮัร เคยกล่าวหาว่าเขาละทิ้งทัศนะของอัซ-อารีย์และโอนเอียงไปทางทัศนะของมั๊วะตะซีละห์ (ดู มุก็อด ดิมะห์ ริซาละห์ เตาฮีด ซึ่งถอดความโดย ฮัจยี ฟิรเดาซ์ เอ.เอ็น หน้า 8)
มุฮัมมัด อับดุฮ์ จบการศึกษาจาก อัล-อัซฮัร ในปี 1877 แต่ทว่าในสมองของเขาได้รับอิทธิพลจากวิชาการของญะมาลุดดีน อัล-อัฟฆานี มากกว่าวิชาการของอัล-อัซฮัร หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว เขาก็ได้เข้าทำงานเป็นบรรณาธิการนิตยสาร “อัล-วะกออิดุล มัสรียะห์” นอกจากนั้นยังเป็นอาจารย์ในหลาย ๆ มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนอีกด้วย นิตยสาร “อัล-วะกออิดุล มัสรียะห์” นั้นคือ นิตยสารจากทางการของรัฐบาลอียิปต์ ซึ่งตีพิมพ์เพื่อกระจายข่าวต่าง ๆ ของรัฐบาล จัดทำขึ้นในปี ค.ศ.1828 โดย ซุลตาน มุฮัมมัด อาลี
ณ ตรงนี้เองที่มุฮัมมัด อับดุฮ์ ได้รับตำแหน่งเป็นบรรณาธิการ (ดู ตารีค อะดาบุลลุฆอติ้ล อะรอบียะห์ เขียนโดย ญูรยี ซัยดะห์ บทที่ 4 หน้า 52)
ในปี 1879 เขาได้ถูกรัฐบาลสั่งปลดออกจากตำแหน่งอาจารย์เพราะรัฐบาลอียิปต์กล่าวหาว่า แบบฉบับหรือหลักคำสอนของมุฮัมมัด อับดุฮ์ ในเรื่องศาสนานั้น แตกต่างไปจากหลักคำสอนที่ประชาชนอียิปต์ยึดถืออยู่ในขณะนั้น หลังจากหน้าที่การเป็นอาจารย์ของเขาถูกถอนออกแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของมุฮัมมัด อับดุฮ์ จึงเหลือเพียงแค่เป็นบรรณาธิการนิตยสาร “ อัล-วะกออิดุล มัสริยะห์” เท่านั้น
มุฮัมมัด อับดุฮ์ เป็นผู้ที่แข็งขันอยู่ในพรรคของ อัล-ฮิซบุล วะตอนี อัล-มิสรี (พรรคชาติ อียิปต์) อันมีคำจูงใจเป็นภาษิตประจำพรรคว่า “อียิปต์เพื่ออียิปต์” มุฮัมมัด อับดุฮ์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่แข็งขันต่อพรรคมาโดยตลอด นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคจนกระทั่งถูกรัฐบาลอียิปต์สั่งยุบพรรคไป (ดู มุฮัมมัด อับดุฮ์ เขียนโดยมุฮัมมัด อัล-อักก๊อด หน้า 129)
จากนั้นไม่นานนัก รัฐบาลอียิปต์ก็ได้ขับมุฮัมมัด อับดุฮ์ ออกจากอียิปต์หลังจากที่ได้ถูกจำคุกเป็นเวลา 3 เดือนเต็ม ในข้อหามีส่วนร่วมการปฏิวัติที่ล้มเหลวของ อะรอบี ปาชา จากนั้นมุฮัมมัด อับดุฮ์ จึงได้ไปอยู่ที่เบรุต (เลบานอน) ขณะที่อยู่ที่เบรุตนั้น เขาก็ได้เข้าเป็นอาจารย์สอนในวิทยาลัย “ซุลตอนียะห์” เป็นอาจารย์สอนวิชาเตาฮีด
หนังสือเล่มนี้ที่ชื่อ “ ริชาลาตุล เตาฮีด” เป็นหนังสือที่ได้มาจากการสอนของท่านมุฮัมมัด อับดุฮในเรือนวิทยาลัยหลังนั้น พร้อมทั้งยังได้ถูกใช้เป็นตำราในสถานศึกษาชั้นสูงทั่วๆไปด้วย ได้ผ่านการปรับปรุงจากศิษย์ของเขาคนหนึ่งชื่อ เชค มุฮัมมัด รอชิด ริดอ (เสียชีวิตไปในปี ค.ศ. 1935)
มุฮัมมัด อับดุฮ์ ใช้ชีวิตอยู่ในเบรุตประมาณ 3 ปี จากนั้นอาจารย์ของเขาคนหนึ่งที่ชื่อ ญะมาลุดดีน อัล-อัฟฆานีก็ได้เรียกตัวเขาไปยังปารีส เพื่อไปร่วมจัดทำนิตยสาร “อัล-อุรวาตุล วุตกอ” ชะตาของมุฮัมมัด อับดุฮ์ นับว่าดีกว่าชะตาของ ญะมาลุดดีน อัล-อัฟฆานี .
หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสได้สั่งปิดนิตยสารดังกล่าวแล้ว ญะมาลุดดีน อัล-อัฟฆานีก็ได้ถูกขับไล่ออกจากประเทศฝรั่งเศษ ส่วนุฮัมมัด อับดุฮ์ ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอียีปต์ โดยอำนาจจากซุลตานอับบาส เฮลมี ให้กลับไปยังประทศอีกครั้ง
เมื่อได้เดินทางไปยังอียิปต์แล้ว เขาก็ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็น “มุฟตี” (มุฟตี ริยาริล มัสรียะฮ์) มีหน้าที่คอยให้คำปรึกษาแนะนำแก่ ซุลตานอียิปต์ในเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนา
หลังจากนั้นก็ไม่นาน มุฮัมมัด อับดุฮ์ ก็ได้ถูกเลือกและถูกแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาแทนราษฎรอียิปต์ พร้อมทั้งยังได้เป็นประธานกรรมมิการ ซึ่งคอยเป็นตัวเชื่อมหรือประสานกันระหว่างรัฐบาลกับผู้แทนราษฎรอีกด้วย
เขาเป็นนักการเมืองคนหนึ่ง และผลงานทางการเมืองของเขามีมากกว่าวิชาด้านด้านศาสนา อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เขาไม่ค่อยได้เขียนหนังสือด้านศาสนา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือฟิกฮฺ หะดิษ และอื่นๆ ก็ตาม
แนวคิดหรือความเข้าใจของเขา
· ต่อต้านมัซฮับทั้ง 4
· เรียกร้องเชิญชวนให้กลับไปสู่อัล-กุรอ่าน และอัซ-ซุนนะห์
· เรียกร้องให้ทุกคนทำการอิญติฮาด (วินิฉัยปัญหาศาสนาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน)
· ต่อต้านอะกีดะห์ยะบารหรือญะบารียะห์
· ต่อต้านกีตาบฟิกฮ์ โดยเฉพาะกิตาบฟิกฮ์ มุตะอัคคีรีน (ชนรุ่นหลัง)
· ฟื้นฟูบรรดาหนังสือที่เข้าใจว่าเป็นมรดกอันเก่าแก่
· ถือว่าการศึกษาวิชาเตาฮีดตามแบบฉบับของอะห์ลิซซุนนะวัล-ญะมาอะฮ์นั้นไม่มีประโยชน์สำหรับหารยึดถือ แต่สามารถศึกษาได้เพื่อการลับสมองเท่านั้น เตาฮีด (การให้เอกภาพ) ที่ดีก็คือ ทำความเชื่อมั่นแก่มนุษย์ตามที่ระบุอยู่ในอัรกุรอ่าน
· คลางแคลงต่อหะดิษที่ว่า “จะแตกออกเป็น 73 จำพวก”
· ให้เสรีภาพต่อสติปัญญาและความคิดของมนุษย์อย่างเต็มที่
· ให้ความเข้าใจในศาสนาตามทัศนะของซะลัฟ
· ปรับปรุงแก้ไขคุณภาพของภาษาอาหรับ
· และอื่น ๆ (ซึ่งทั้งหมดผู้เขียนได้คัดมาจากหนังสือหลาย ๆ เล่ม และคัดมาจากหนังสือ อัล-ฟิกรุล อิสลามมิล หะดิษ เขียนโดย ด็อกเตอร์ มุฮัมมัด อัลบาฮี หน้า 91-148
ผลงานของอับดุฮฺ
หนังสือที่มุฮัมมัด อับดุฮ์ เขียนขึ้นนั้นมีเพียง 3 เล่ม คือ
1. ริชาลาตุล เตาฮีด
2. ตัฟซี ยุช อัมมา
3. อัล-อิสลาม วัน-นัสรอนี
ส่วนหนังสือตัฟซีรอันเป็นที่เลื่องลือชื่อ “ตัฟซีร มุฮัมมัด อับดุฮ์” นั้นไม่ได้เขียนโดยมุฮัมมัด อับดุฮ์ แต่เขียนขึ้นโดยศิษย์ของท่านคนหนึ่งชื่อ เชค มุฮัมมัด รอชิด ริดอ (เสียชีวิตปี ค.ศ. 1935)
ฉะนั้น จึงถือเป็นการไม่ลงตัวหากมุฮัมมัด อับดุฮ์ถูกขนานนามหรือถูกให้ชื่อว่า “อัล-อุซตาซ อัล-อิหม่าม” เทียบเคียงจากอูลามะอฺ ปริญญาบัตรจากอัล-อัซฮัร เช่น เชค อะนู ฮะญัร อัล-ฮัยตามี (ผู้แต่งหนังสือฟิกฮฺ ตุฮฟะตุล มุฮ์ตัญ) เชค ซาการียา อัล-อันศอรีย์ (ผู้แต่งหนังฟิกฮ มินฮาญุต ตูลับ ซาเราะห์ ฟะตุล วาฮาบ) และเชค ซัรกอวีย์ (ผู้แต่งหนังเตาฮีด ซาเราะห์ ซานุซี)
ไม่เคยนึกคิดเลยว่า มุฮัมมัด อับดุฮ์ จะเอาวิญญาณแห่งความคิดสมัยใหม่ในศาสนาเข้าไปยังในสังคมอิสลาม ได้อย่างนุ่มนวลและเฉียบแหลม โดยร่วมกันกับศิษย์ของเขาชื่อ มุฮัมมัด รอชีด ริดอ ด้วยการใช้สื่อผ่านทางวารสารอัล-มะนาร
ผลของความคิดสมัยใหม่ในศาสนานั้น จะดีหรือไม่ประการใดผู้เขียนไม่ทราบ แต่หน้าที่ความรับผิดชอบส่วนใหญ่ต้องตกอยู่บนบ่าของ มุฮัมมัด อับดุฮ์อย่างแน่นอน .
อะห์หมัด อามีนผู้เขียนที่โด่งดัง ในอียิปต์ที่แต่งหนังสือ “ซุอามาอุล อิสลาม” ได้ระบุในหนังสือของเขาหน้า 121 ว่า ซัยยิด อะห์หมัดคนในอินเดียนั้นคล้ายคลึงกันกับมุฮัมมัด อับดุฮ์ ในอียิปต์ ทั้งสองเป็นผู้ทีความคิดสมัยใหม่ในศาสนา และทั้งสองก็แนะนำให้ “ประนีประนอม” กับรัฐบาลอังกฤษผู้ครอบครองเมืองขึ้น นอกจากนั้นแล้วทั้งสองยังได้ให้ทัศนะว่า อังกฤษมีความแข็งแกร่งมากทั้งทางน้ำและทางบก ซึ่งอินเดียและอียิปต์ไม่สามารถสู้รบปรบมือได้เลย แต่ถ้าประชาชาติอิสลามสามารถเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันได้ บางทีก็อาจจะสามารถต่อกรกับอังกฤษได้ กว่าจะเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างไร หากประชาชาติอิสลามยังจมปลักอยู่กับความโง่เขลา อีกทั้งบรรดาราชาแห่งอิสลามก็ยังไม่ได้เป็นที่เชื่อมั่นได้ ดังนั้นทางที่ดีเราควรอ่อนข้อหรือประนีประนอมกับอังกฤษและตักตวงผลประโยชน์ที่เหมาะที่ควรจากพวกเขา” .
ดร. มุฮัมมัด อัล-บาฮี นักเขียนผู้รักชอบในตัวของมุฮัมมัด อับดุฮ์ได้เขียนบทความโต้ตอบมุฮัมมัด อามีน ไว้ในหนังสือ “อัล-ฟิกรุล อิสลามิล ฮะดีษ” หน้า 150 ว่า
“ บางทีอุซตาซอะห์หมัด อะมีนมีทัศนะว่า ไมตรีจิตของมุฮัมมัด อับดุฮ์ที่ได้หยิบยื่นให้กับลอด โครเมอร์เป็นการประจบประแจงของมุฮัมมัด อับดุฮ์ที่มีอังกฤษ แต่ความจริงมิได้เป็นนั้น มุฮัมมัด อับดุฮ์สัมผัสมือกับอังกฤษก็เพื่อปกป้องตนเองให้พ้นจากแรงกดดันของซุลตาน อับบาสที่ 2 และด้วยวิธีการดังกล่าวนั้นทำให้เขานั้นสามารถบรรลุถึงเป้าหมายได้ ซึ่งก็คือการปฏิรูปอัล-อัซฮัร
จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ บรรดาอูลามะอฺอัล-อัซฮัรก็ยังไม่ค่อยจะยอมรับกับการปฏิรูปอัล-อัซฮัรตามข้อเสนอหรือข้อแนะนำของ มุฮัมมัด อับดุฮ์ เพราะบรรดาอูลมะอเหล่านั้นยังคงคลางแคลงต่อศาสนาของมุฮัมมัด อับดุฮ์ และหนังสือตัฟซีรที่ชื่อ ตัฟซีร มุฮัมมัด อับดุฮฺ หรือ “ตัฟซีร อัล-มะนาร” นั้นก็ยังไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับและยังไม่ได้นำมาสอนกันในอัล-อัซฮัร (ดู ฟิกฮ์รุล อิสลามิล ฮะดีษ หน้า 146)
ปัจจุบันนี้อัล-อัซฮัร ได้มีการสอนวิชาฟิกซ์ของมัซฮับทั้งสี่ แม้ว่าแต่ก่อนเคยถูกมุฮัมมัด อับดุฮ์ต่อต้านก็ตาม
สมควรที่ผู้อ่านจะต้องทราบกัน ณ ตรงนี้ว่า มุฮัมมัด อับดุฮ์ นั้นเป็นผู้ที่ชำนาญด้านการขี่ม้า เขาใช้ม้าเป็นพาหนะในการเดินทางไปในทุกหนแห่ง ถึงแม้จะไปยังสถานที่ต่าง ๆ ของทางราชการก็ตาม นอกจากนั้นแล้วเขายังเป็นผู้ที่ชอบการกีฬาด้วย เขาเคยขี่ม้าไปยังอัสวานเพื่อไปชมการแข่งวอลเล่ย์บอล (ดู มุฮัมมัด อับดุฮ์ เขียนโดยมุฮัมมัด อับบาส อัล-อักก๊อด หน้า 222)
มุฮัมมัด อับดุฮ์เสียชีวิตที่อิยิปต์ในปี 1905
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น