เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
บล็อกนี้ เป็นบล็อกสำหรับทุกคนที่ต้องการรับรู้ถึงสังคมปัจจุบันว่ากำลังดำเนินไปในทิศทางใดและสังเกตุพฤติกรรมของมุสลิมในสังคมว่ามีสภาพว่าเป็นอย่างไร พร้อมกันนี้เพื่อนอิสลามจะคอยเป็นเพื่อนกับทุกท่านที่เข้ามาเยื่ยมชม ซึ่งสิ่งที่เราต้องการ คือ เป็นเพื่อนในอิิสลามของคุณตลอดไป และถ้าหากเห็นว่าบล็อกนี้มีประโยชน์ช่วยเม้นให้ด้วยนะ หรือ ถ้าหากจะต้องการเนื้อหาอะไรก็โพสได้นะครับ ยินดีเสมอครับ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อะไรคือความเชื่อของรอฟิเฎาะฮฺเกี่ยวกับบัยอะห์(การให้คำปฏิญาณต่อคอลีฟะห์) ?

อะไรคือความเชื่อของรอฟิเฎาะฮฺเกี่ยวกับบัยอะห์(การให้คำปฏิญาณต่อคอลีฟะห์) ?

รอฟิเฎาะฮฺมองว่าการปกครองนอกเหนือจากอิมามทั้งสิบสองนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ผิด ใน อัลกาฟี บิชัรฮิ อัลมาซินดะรอนีย์  และ อัลฆีบะห์   โดย อัน นุมานีย์  จาก อบี ญะฟัร ได้กล่าวว่า : ธงที่ถูกชูขึ้นก่อนการกำเนิดอิมามผู้ยืนหยัด(อิมามมะห์ดีของรอฟิเฎาะฮฺ) เจ้าของมันย่อมต้องเป็นจอมซาตาน [1]
เป็นสิ่งต้องห้ามที่จะเชื่อฟังผู้นำที่ไม่ได้มาจากการกำหนดของอัลลอฮฺ นอกเสียจากโดยการเสแสร้ง(ตะกียะห์) พวกเขาเรียกบรรดาผู้นำและคอลีฟะห์ของมุสลิมทั่วไปว่าเป็น ผู้นำที่อยุติธรรม ไม่ซื่อสัตย์ ไม่เหมาะสม และอื่นๆ ที่มีความหมายเช่นนี้ โดยเฉพาะ อบู บักร อุมัรและอุษมาน ยกเว้นบรรดาอิมามของพวกเขาเท่านั้น
อัล มัจลิสซีย์ เจ้าของ บิหาร อัลอันวาร  ซึ่งเขาเป็นหนึ่งที่ทำให้ชีอะฮฺหลงทาง ได้กล่าวถึงคอลีฟะห์ทั้งสามว่า : พวกเขาไม่ได้เป็นสิ่งใดเลยนอกเสียจากผู้ที่แย่งชิง โหดร้าย และกบฏต่อศาสนา ขออัลลอฮฺสาปแช่งพวกเขา และบรรดาผู้ที่ติดตามพวกเขาทั้งหมดที่ทำร้ายอะห์ลิลบัยต์ ทั้งคนรุ่นก่อนและรุ่นหลัง [2]
นี่คือคำพูดของผู้นำชั้นแนวหน้าคนหนึ่งของชีอะฮฺ ผู้เป็นเจ้าของหนังสือที่พวกเขายกย่องเชื่อถือเป็นที่หนึ่ง เป็นคำพูดที่กล่าวหาเหล่าศอหาบะห์ ชนรุ่นที่ประเสริฐที่สุดหลังจากบรรดานบี
ด้วยพื้นฐานเช่นนี้ พวกเขาจึงมองว่า ทุกคนที่ให้การสนับสนุนคอลีฟะห์ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ร้ายด้วยกันทั้งนั้น อัล กุลัยนีย์ ได้รายงานจาก อุมัร บิน ฮันซอละห์  ว่า : ฉันได้ถาม อบู อัลดิลลาฮฺ ถึงชายสองคนที่มีเรื่องขัดแย้งในเรื่องหนี้หรือการแบ่งทรัพย์ว่าสามารถที่จะนำเรื่องไปฟ้องผู้ปกครองหรือตุลาการ(ที่เป็นสุนนีย์) ได้หรือไม่ ? ท่านตอบว่า : ผู้ใดที่ยอมรับการพิพากษาจากพวกเขา ไม่ว่าจะถูกหรือผิด นั่นแสดงว่าเขาได้ยอมรับพวกซาตาน และสิ่งใดที่ถูกตัดสินให้แก่ผู้ใด ผู้นั้นได้เอามันด้วยอธรรม ถึงแม้มันจะเป็นของเขาโดยถูกต้อง เพราะเขาได้เอามันมาด้วยการตัดสินของพวกอธรรม [3]


โคมัยนี ได้ให้ข้อสังเกตแก่รายงานนี้ว่า : ท่านอิมามเองได้ห้ามการเรื่องไปให้ผู้นำและตุลาการของพวกเขา(หมายถึงพวกสุนนะห์)พิพากษา และถือว่าการกระทำเช่นนั้น เป็นการเข้าไปหา และยอมรับพวกตอฆูต(ซาตานหรืออธรรม) [4]
ในหนังสือ อัตตะกียะห์ ฟี ฟิกฮฺ อะฮฺลิสสุนนะห์ บทที่เก้า เรื่องการเสแสร้งในการทำญิฮาด ว่าด้วยการยอมรับความกรุณาแห่งโองการของอัลลอฮฺ คำกล่าวของเชค มุสลิม อัดดาวะรีย์ ถึงการทำงานกับผู้นำที่เป็นผู้ร้าย เขาหมายถึงผู้นำชาวที่เป็นชาวสุนนีย์ ด้วยคำกล่าวว่า แท้จริงการทำงานกับบรรดาสุลตาน(ผู้นำ)แบ่งออกเป็นสามประเภท :
ประเภทแรก คือ ตั้งใจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของมุอฺมิน [5] และเพื่อเป็นการช่วยเหลือที่เป็นผลประโยชน์ต่อมุอฺมินด้วยกัน นี้เป็นประเภทที่ชื่นชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่สนับสนุนให้ทำงาน
ประเภทที่สอง คือ ทำงานเพื่อเป็นค่าครองชีพ และชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้น ประเภทนี้อนุญาตให้กระทำได้ แต่เป็นเรื่องน่ารังเกียจ หากจะให้ดี ก็ทำเพื่อพี่น้องมุอฺมิน เป็นการช่วยเหลือความยากลำบากของพวกเขา และการกระทำเช่นนี้จะเป็นการลบล้างบาปสำหรับเขา
ประเภทสุดท้าย คือ การทำงานเพราะความจำเป็น เพื่อเป็นค่าอาหารและเครื่องดืม ประเภทนี้ อนุญาตให้กระทำได้และมิใช่เป็นเรื่องที่รังเกียจ [6]
พี่น้องมุสลิม ดูสิครับว่า พวกชีอะฮฺถือว่าชาวสุนนีย์เป็นพวกที่อธรรมได้เช่นไร?? และพวกชีอะฮฺอนุญาติให้ทำงานกับผู้ปกครองที่เป็นชาวสุนนีย์ ด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง ที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อเป็นผลประโยชน์ต่อชาวชีอะฮฺโดยรวม ดังนั้นการกระทำนั้นก็จะเป็นที่อนุญาต นี้เป็นที่รู้ๆกันในบรรดาชาวชีอะฮฺ และชีอะห์รอฟิเฏาะฮฺ พวกเขาจะให้การนับถือต่อผู้นำของพวกเขาเท่านั้น เช่นเดียวกันที่พวกเขาจะไม่ทำงานที่ใดที่หนึ่ง นอกเสียจากพวกเขาจะได้ครอบครองที่นั้น และพวกเขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ชาวสุนนีย์ออกห่างจากกิจการนั้นๆ เพื่อพวกเขาจะได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง!!
ขอพระองค์ทรงให้มุสลิมห่างไกลจากความเลวร้ายของชีอะฮฺ
*****


[1] ดูอัลกาฟี บิชัรฮิ อัลมาซินดะรอนีย์  12/371 และ บิหาร อัลอันวาร 25/113
[2] ดู  บิหาร อัลอันวาร   เล่มที่ 4  หน้า  385
[3] ดู อัลกาฟีย์ โดย อัล กุลัยนีย์  (1/67) , อัตตะห์ซีบ (6/301) , มันลา ยะห์ฏุรฮุ อัลฟะกีฮฺ (3/5)
[4] ดู อัลหุกูมะห์ อัลอิสลามียะห์ โดย โคมัยนี  หน้า 74
[5] มุอฺมินในที่นี้ หมายถึง พวกชีอะฮฺ ซึ่งพวกชีอะฮฺรอฟิเฏาะฮฺจะเรียกพวกเขาเองว่า มุอฺมิน
[6] ดู กีตาบ อัตตะกียะห์ เรื่อง ฟิกฮฺ อะห์ลิลบัยต์ ตักรีร ลิ อับหาษ สะมาหะฮฺ อายะติลลาฮฺ โดย เชค มุสลิม อัดดาวะรีย์ เล่ม 2 หน้า 153

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น