من عقائد الشيعة
ความเชื่อบางประการของชีอะฮฺ
อับดุลลอฮฺ บิน มุหัมมัด อัล สะละฟีย์ เขียน
อบู หะสัน แปล
คำนิยม
กระผมแนะนำหนังสือที่ท่านผู้เขียนได้ส่งมาให้ผม เมื่อ10/2/1418 ฮ.ศ. โดยเฉพาะหนังสือเรื่อง “ชีอะฮฺ” ผมได้อ่านแล้ว ปรากฏว่าเป็นหนังสือที่ดีและสำคัญ หนังสือเล่มนี้ สมควรอย่างยิ่งที่จะนำไปเผยแผ่ให้แพร่หลายในประเทศซาอุดี อาระเบีย และ โซนประเทศข้างเคียง
ขอต่ออัลลอฮฺผู้อภิบาล ทรงให้หนังสือเล่มนี้เป็นคุณประโยชน์ตลอดไป และขอให้องค์ทรงประทานความบารอกัตในสิ่งที่ผู้เขียนได้ทุ่มเทให้เกิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา
อัลหัมดุลิลลาฮฺ หนังสือเล่มนี้ได้ถอดความมาจากต้นฉบับภาษาอาหรับที่มีชื่อว่า “มิน อะกออิด อัลชีอะฮฺ” สำนวนในภาษาไทยเป็นสำนวนที่ผู้แปลได้ตีความหมายมาจากสำนวนเดิม ยังมีบางคำที่ผู้แปลทับศัพท์ในภาษาอาหรับ ทั้งนี้เพราะคำเดิมมีความหมายที่ยากต่อการแปลอย่างตรงตัว อีกทั้งบางคำมีความหมายมากกว่าหนึ่งความหมายในภาษาไทย
ผู้แปลหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานแปลชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์และให้ความกระจ่างแก่ผู้อ่านเกี่ยวกับหลักความเชื่อหรืออะกีดะฮฺของชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่ผู้อ่านเห็นว่าเป็นข้อผิดพลาดในการแปลงานชิ้นนี้ ผู้แปลขอน้อมรับความเห็นและคำแนะนำจากผู้อ่านทุกท่านด้วยความยินดียิ่ง ขอขอบคุณ
อบู หะสัน
4 ญามาดิลเอาวัล 1428มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺเพียงผู้เดียว พรอันประเสริฐและความสันติสุขอย่างไม่สิ้นสุดจงมีแด่ท่าน รสูล วงศ์วานของท่าน และบรรดาเศาะหาบะฮฺ
สิ่งที่ชักจูงให้ฉันเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพราะฉันได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก เพื่อการเผยแผ่และเชิญชวนสู่แนวคิดรอฟิเฎาะฮฺในยุคปัจจุบัน ที่ได้แผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก ซึ่งนับวันยิ่งทวีคูณ ในขณะที่มุสลิม(ชาวสุนนีย์) ส่วนใหญ่กลับหลับไหล ไม่ยอมรับรู้ถึงอันตรายของพวกรอฟิเฎาะฮฺ และความเชื่อของพวกเขาที่เต็มไปด้วยการตั้งภาคีย์(ชิริก)ต่ออัลลอฮฺ การกล่าวหาอัลกุรอานและใส่ไคล้บรรดาเศาะหาบะฮฺ รวมทั้งความคลั่งไคล้ที่เลยเถิดของพวกเขาในการยกย่องบรรดาอิมาม ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องเขียนสารฉบับนี้ขึ้น เพื่อเป็นคำตอบให้กับความคลุมเครือต่างๆเกี่ยวกับแนวคิดของพวกรอฟิเฎาะฮฺ ด้วยวิธีการเขียนที่รวบรัด ซึ่งเป็นการตามแบบอย่างงานเขียนของ เชค อับดุลลอฮฺ บิน อับดุรเราะห์มาน อัลญับรีน ในหนังสือของท่านที่มีชื่อว่า “อัลตะอฺลีก้อต อะลา มัตนิ ลัมอะติล อิอฺติก้อด” .
เนื้อหาส่วนใหญ่ได้อ้างมาจากหนังสือที่เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ยอมรับของชีอะฮฺเอง และมีบางส่วนที่ได้อิงมาจากหนังสือของ อุละมาอฺ ชาวสุนนีย์ ซึ่งได้เขียนตอบโต้และให้ความกระจ่างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดและความเชื่อผิดๆของชีอะฮฺ ที่หันเหออกจากแนวทางที่เที่ยงแท้ และตั้งอยู่บนพื้นฐานของการตั้งภาคีย์ต่อ อัลลอฮฺความคลั่งไคล้ต่อบรรดาอิมามที่เลยเถิด การโป้ปดมดเท็จ การด่าทอ ใส่ไคล้ และบั่นทอนเกียรติอันสูงส่งของบรรดาเศาะหาบะฮฺ…
ในหนังสือที่สั้นและกระทัดรัดเล่มนี้ ฉันพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะแฉข้อตำหนิและประณามชีอะฮฺ ด้วยการอิงจากหลักฐานที่น่าเชื่อถือและยอมรับของชีอะฮฺเอง ดังที่ท่าน เชค อิบรอฮีม บิน สุลัยมาน อัล ญับฮาน ได้กล่าวว่า : “นี่ผู้เป็นชีอะฮฺ! เราจะแฉท่านด้วยปากของท่านเอง”.
ท้ายนี้ ฉันขอวิงวอนเอกองค์อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงประทานผลและความดีของหนังสือเล่มนี้ แก่ผู้ที่มีสติในการคิด ดังที่อัลลอฮฺได้ทรงตรัสว่า :
( إنَّ فيِ ذَلِكَ لَذِكرى لِمَن كَانَ لَهُ قَلبٌ أو أَلقى السّمعَ وهوَ شَهَيدٌ )
ความว่า : “แท้จริงในการดังกล่าว แน่นอนย่อมเป็นข้อตักเตือนแก่ผู้ที่มีหัวใจ หรือผู้รับฟัง และประจักษ์เช่นพยาน” (สูเราะฮฺ กอฟ 50:37)
ฉันขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนช่วยในการเขียนหนังสือเล่มนี้ ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนพวกเขา ด้วยคุณความดีในสิ่งที่พวกเขาทำด้วย
พรอันประเสริฐและความสันติสุขอย่างไม่สิ้นสุด จงมีแด่ท่าน รสูลุลลอฮฺ บรรดาวงศ์วาน และเศาะหาบะฮฺของท่าน.
ผู้เขียน
อับดุลลอฮฺ บิน มุหัมมัด อัลสะละฟีย์
รอฟิเฎาะฮฺ กำเนิดขึ้นเมื่อใด?
ชีอะฮฺรอฟิเฎาะฮฺ เกิดขึ้นหลังจากการปรากฎตัวของชายยิวผู้หนึ่งซึ่งที่มีชื่อว่า อับดุลลอฮฺ บิน สะบะอฺ ซึ่งได้อ้างตนเป็นมุสลิม และอ้างว่ารักและยกย่องครอบครัวอะฮฺลิลบัยต์ มีความคลั่งไคล้ท่าน อาลี รอฎิยัลลอฮฺ อันฮุ อย่างเกินขอบเขต แอบอ้างว่าท่านคือผู้ที่ท่านนบีได้สั่งเสีย (วะศิยะฮฺ) ให้เป็นคอลีฟะฮฺหลังจากท่าน จนกระทั่งได้ ยกสถานภาพความเป็นมนุษย์ของท่านถึงระดับพระเจ้าที่ควรแก่การบูชาในที่สุด ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หนังสือของชีอะฮฺเองต่างยอมรับ
อัล กุมมีย์ ได้กล่าวในหนังสือ “อัลมะกอลาต วัลฟิรอก”[1] อย่างยอมรับว่า อับดุลลอฮฺ บิน สะบะอฺ นั้นมีตัวตนจริง และยังถือว่าเขาเป็นผู้ที่ริเริ่มนำความเชื่อการเป็นอิมามของท่านอาลี และการกลับมาอีกครั้ง(หลังจากเสียชีวิตในโลกนี้)ของท่านมาเผยแผ่ และยังเป็นผู้ที่ริเริ่มกล่าวร้ายและสาปแช่งท่านอบูบักร อุมัร อุษมาน และบรรดาเศาะหาบะฮฺท่านอื่นๆ. เช่นเดียวกับ อัล นุบัคตีย์ ที่ยอมรับในหนังสือที่มีชื่อว่า “ฟิรอกชีอะฮฺ[2] และ อัล กัชชีย์ ในหนังสือ “ริญาล อัลกัชชีย์”[3] และปัจจุบันในบรรดาชีอะฮฺผู้ที่ยอมรับว่า อับดุลลอฮฺ บิน ซะบะอฺ มีตัวตนจริง คือ มุหัมหมัด อาลี อัลมุอัลลิม ในหนังสือของเขาซึ่งมีชื่อว่า “อับดุลลอฮฺ บิน ซะบะอฺ อัลหะกีกะฮฺ อัลมัญฮูละฮฺ” [4] การยอมรับเช่นนี้ถือว่าเป็นหลักฐานที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกท่านที่กล่าวถึงนั้น ล้วนเป็นผู้รู้ชั้นแนวหน้าของรอฟิเฎาะฮฺ
อัล บัฆดาดีย์ กล่าวว่า : อัล สะบะอิยยะฮฺ (หมายถึง รอฟิเฎาะฮฺ) คือผู้ติดตาม (แนวคิดของ) อับดุลลอฮฺ บิน สะบะอฺ ที่เสแสร้งคลั่งไคล้ท่านอาลี รอฎิยัลลอฮฺ อันฮุ อย่างเกินขอบเขต และยังกล่าวอ้างว่าท่านเป็นนบี สุดท้ายถึงกับอ้างว่าท่านอาลีคืออัลลอฮฺ.
อัล บัฆดาดีย์ ยังได้กล่าวอีกว่า : “เดิมที อิบนุ เสาดาอฺ (อับดุลลอฮฺ บิน สะบะอฺ) นั้น เป็นยิว ชาว อัล หิรอฮฺ (ในเยเมน) ต่อมาได้แสดงตนเป็นมุสลิม (ในสมัยการปกครองของเคาะลีฟะฮฺอุษมาน) และมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้นำที่น่านับถือและยกย่องในหมู่ชาวกูฟะห์(เมืองหนึ่งในอิรัก) จึงได้(กุเรื่อง)บอกแก่คนเหล่านั้นว่า เขาได้พบการยืนยันในคัมภีร์เตารอตว่า “สำหรับนบีแต่ละท่านนั้นจะมีผู้ถูกสั่งเสีย (วะศิยัตให้เป็นผู้สืบทอดหรือเคาะลีฟะฮฺหลังการเสียชีวิต) และแท้จริง อาลี รอฎิยัลลอฮฺ อันฮุ คือผู้ที่ท่านนบีได้สั่งเสีย(ให้สืบทอดตำแหน่ง) ต่อจากท่าน ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม.
อัล ชิฮฺริสตานีย์ ได้กล่าวถึงอิบนุ สะบะอฺว่า “เขาคือผู้ที่ริเริ่มโพนทนาว่า การเป็นอิมามของท่านอาลี (ต่อจากท่านรสูล) ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนจากอัลลอฮฺ และท่านยังกล่าวถึงกลุ่มสะบะอิยะฮฺว่า : “เป็นกลุ่มแรกที่เชื่อว่ามีการหยุดชะงักของอิมามคนสุดท้ายด้วยหายตัวของอาลีและการกลับมาอีกครั้งของท่าน ต่อมาความเชื่อดังกล่าวได้ตกทอดมายังกลุ่มชีอะฮฺ – ถึงแม้จะมีการขัดแย้งกันระหว่างชีอะฮฺเอง และแตกออกเป็นกลุ่มต่างๆก็ตาม -. ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงที่มาจากการกระทำของ อับดุลลอฮฺ บิน สะบะอฺ ที่ได้ทิ้งไว้ หลังจากนั้นชีอะฮฺได้แตกออกเป็นกลุ่มต่างๆที่มีความเชื่อที่แตกต่างกันออกเป็นสิบๆแนวคิดและความเชื่อ จนกระทั่งเวลานี้
ดังนี้แหละคือที่มาของการอุตริของชีอะฮฺเกี่ยวกับ (ความเชื่อในเรื่อง) การสั่งเสีย การกลับมาอีกครั้งของท่านอาลี การหายตัวอย่างลึกลับของอิมามคนสุดท้าย รวมทั้งการอ้างความเป็นพระเจ้าของบรรดาอิมาม [5] ล้วนมาจากการอุตริของชาวยิวที่ชื่อ อับดุลลอฮฺ บิน สะบะอฺ ทั้งสิ้น.
*****
[4] หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือตอบโต้หนังสือที่มีชื่อว่า “อับดุลลอฮฺ บิน สะบะอฺ วา อะสาตีร อุคฺรอ” ที่เขียนโดยชาวชีอะฮฺชื่อ มุรตาฏอ อัลอัสกะรีย์ ซึ่งได้กล่าวถึงการที่เขาปฎิเสธต่อการมีตัวตนของ อับดุลลอฮฺ บิน สะบะอฺ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น