เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
บล็อกนี้ เป็นบล็อกสำหรับทุกคนที่ต้องการรับรู้ถึงสังคมปัจจุบันว่ากำลังดำเนินไปในทิศทางใดและสังเกตุพฤติกรรมของมุสลิมในสังคมว่ามีสภาพว่าเป็นอย่างไร พร้อมกันนี้เพื่อนอิสลามจะคอยเป็นเพื่อนกับทุกท่านที่เข้ามาเยื่ยมชม ซึ่งสิ่งที่เราต้องการ คือ เป็นเพื่อนในอิิสลามของคุณตลอดไป และถ้าหากเห็นว่าบล็อกนี้มีประโยชน์ช่วยเม้นให้ด้วยนะ หรือ ถ้าหากจะต้องการเนื้อหาอะไรก็โพสได้นะครับ ยินดีเสมอครับ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แผ่นกระดานของฟาติมะห์ ตามคำอ้าง

แผ่นกระดานของฟาติมะห์ ตามคำอ้าง

นี่คือคัมภีร์จากองค์อัลลอฮฺ ผู้ทรงเกรียงไกรและปรีชายิ่งถึง       มุหัมหมัด ผู้เป็นนบีของพระองค์ เป็นรัศมีของพระองค์ เป็นทูต เป็นผ้าม่าน เป็นผู้ชี้ทาง ซึ่งนำลงมาโดยวิญญาณอันซื่อสัตย์ จากเบื้องบน ณ องค์อภิบาลแห่งสากลโลก โอ้ มุหัมหมัด จงเชิดชูนามของข้า จงขอบคุณต่อคุณของข้า และอย่าได้ขัดต่อความดีของข้า แท้จริงข้าคืออัลลอฮฺ ไม่มีพระเจ้านอกจากข้า ผู้หักล้างเหล่าผู้อหังการ ผู้ช่วยเหลือคนที่ถูกทารุณ และผู้เป็นเจ้าหนี้แก่หนี้คุณทั้งหมด แท้จริงข้าคืออัลลอฮฺ ไม่มีพระเจ้านอกจากข้า ดังนั้นผู้ใดที่ปรารถนานอกเหนือจากความประเสริฐของข้า หรือเกรงต่อความยุติธรรมของผู้อื่นนอกเหนือจากข้า แน่นอนข้าต้องทรมานเขาด้วยการทรมานที่ข้าไม่เคยทรมานผู้ใดเลยในสากลโลก ดังนั้นจงมอบความภักดีต่อข้าเท่านั้น และจงพึ่งข้าเพียงผู้เดียว แท้จริงข้าจะไม่ส่งนบีผู้ใดผู้หนึ่งแล้วข้าก็ทำให้ช่วงเวลานั้นสมบูรณ์ จนชีวิตของเขาล่วงลับ นอกเสียจากข้าได้กำหนดผู้สืบทอดต่อจากเขา และแท้จริงข้าได้มอบความประเสริฐให้แก่เจ้าเหนือบรรดาบนีทั้งหมด และได้ให้ความประเสริฐแก่ผู้สืบทอดของเจ้าเหนือผู้สืบทอดทั้งหมด และข้าได้ให้เกียรติเจ้าด้วยราชสีห์ผู้เป็นหลานของเจ้าสองคน คือ หะสัน และหุเสน และข้าได้ทำให้หะสันเป็นคลังแห่งความรู้ของข้า หลังจากบิดาของเขา และได้ทำให้หุเสนเป็นคลังแห่งโองการของข้า และได้มอบเกียรติแห่งการพลีชีพ และบั้นปลายแห่งความสุข เขาจึงเป็นชะฮีดที่เลิศที่สุด และสูงศักดิ์ที่สุดในหมู่ผู้พลีชีพ ข้าได้กำหนดให้วาจาอันสมบูรณ์อยู่กับเขา รวมทั้งหลักฐานอันแน่นหนักอีกเช่นเดียวกัน ด้วยลูกหลานของเขา ข้าจะแทนบุญและคาดโทษ ผู้แรกคือ อาลี ผู้นำแห่งมวลผู้เคารพภักดี และเครื่องประดับเหล่า วะลีของข้าที่ผ่านๆ มา และบุตรของเขาผู้คล้ายกับปู่ของเขา      มุหัมมัด อัลบากิร ซึ่งเป็นวิทยะแห่งข้าและคลังแห่งความปรีชาแห่งข้า ผู้ที่ไม่มั่นใจในญะฟัร จะล้มละลายสิ้น ผู้ที่ต้านเขาก็เหมือนผู้ต่อต้านข้า เป็นคำมั่นสำหรับข้าที่ต้องให้เกียรติญะฟัรและให้ความปลาบปลื้มแก่เขาด้วยบรรดาผู้ติดตาม ผู้ช่วยเหลือและผู้ใกล้ชิด ด้วยผู้ช่วยของเขา มูซา ฟิตนะห์อันมืดมิดจะถูกลบล้าง เพราะสายเชือกแห่งการกำหนดของข้ายังไม่ขาด และหลักฐานของข้าไม่ได้หาย และบรรดาผู้ใกล้ชิดของข้าได้ดื่มด้วยจอกที่เปี่ยมน้ำ ผู้ใดทีขัดใครคนหนึ่งในหมู่พวกเขา แน่แท้เขาได้ขัดการประทานของข้า และผู้ใดที่เปลี่ยนแปลงโองการหนึ่งในคัมภีร์ของข้า แน่แท้เขาได้กล่าวอ้างคำโกหกต่อข้า ความหายนะจงมีแด่ผู้ที่ปั้นแต่งและต่อต้านหลังช่วงสมัยของมูซา ผู้เป็นบ่าวที่ข้ารักและข้าเลือกให้อลี ผู้เป็นวะลีของข้า ผู้ช่วยข้า (...)[1] ข้าได้ทดสอบเขาให้เป็นผู้ที่มีพลังในการเป็น นบี คนที่สังหารเขาคือปีศาจผู้เย่อหยิ่ง เขาถูกฝัง ณ เมืองที่สร้างขึ้นโดยบ่าวผู้ภักดี ใกล้ๆ กับผู้ที่ชั่วร้ายที่สุด เป็นคำมั่นของข้าที่ต้องสั่งเขาด้วยลูกของเขามุหัมมัดผู้เป็นคนสืบทอดการปกครองและความรู้หลังจากเขา ดังนั้นเขาจึงเป็นคลังแห่งความรู้ของข้า เป็นแหล่งความลับของข้า เป็นสักขีพยานแก่ข้าต่อสรรพสิ่งทั้งหมด ไม่มีบ่าวผู้ใดที่ศรัทธาในเขา นอกเสียจากข้าต้องให้สวรรค์แก่เขาและให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเขาเจ็ดสิบคนที่ต้องลงนรก และข้าจะมอบบั้นปลายอันเป็นสุขแก่ลูกของเขา อาลี ผู้เป็นผู้ใกล้ชิดและผู้ช่วยเหลือข้า เป็นสักขีต่อสรรพสิ่งของข้า และเป็นผู้รักษาโองการของข้า ข้าจะให้กำเนิดจากเขาซึ่งผู้เผยแพร่ไปยังเส้นทางของข้า ผู้เป็นคลังแห่งความรู้ข้าที่ดี และข้าจะทำให้สมบูรณ์ด้วยบุตรของเขา (...) [2] เป็นความเมตตาแก่สรรพสิ่งในสากลโลกที่สมบูรณ์ดั่งมูซา งดงามดั่งอีซา อดทนเช่นอัยยูบ ดังนั้นเหล่าผู้ใกล้ชิดข้าในสมัยของเขาจะนอบน้อม หัวของพวกเขาจะสยบด้วยความภักดี เช่นที่พวกเติรก์และอัล ดัยลัม จะยอมสยบ ดังนั้นพวกเขาจะถูกสังหาร ถูกเผา และอยู่ในความกลัว และหวาดเกรง แผ่นดินจะนองด้วยเลือดของพวกเขา ความหายนะแผ่กระจายยังสตรีของพวกเขา นั่นคือวะลีของข้าที่แท้จริง ด้วยพวกเขาข้าจะปัดเป่าฟิตนะห์ที่มืดมิด ด้วยพวกเขาข้าจะคลายวิบัติ พันธนาการ และโซ่ตรวน พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับการศอลาวาต จากผู้ภิบาลพวกเขาและความเมตตาของพระองค์  พวกเขาคือผู้ที่ได้รับการชี้นำ
อับดุรเราะห์มาน บิน สาลิม กล่าวว่า : อบู บุซัยร์ ได้พูดว่า : ถ้าในชีวิตท่าน ท่านไม่ได้ฟังนอกจากคำพูดนี้ย่อมต้องพอเพียงแล้ว ดังนั้นจงรักษามันยกเว้นจากผู้เป็นเจ้าของมัน [3] *



[1] จุดในวงเล็บเป็นคำที่ผู้เขียนไม่สามารถนำลงหนังสือได้เพราะไม่ชัดเจน
[2] จุดในวงเล็บเป็นคำที่ไม่ชัดอีกเช่นกัน
[3] ดู อัลกาฟีย์ ของ อัล กุลัยนีย์ (1/527) และอัลวาฟี  ของ อัล ฟัยฎ์ อัล กาชานี เล่มหนึ่ง (2/72) และอิกมาล อัดดีน ของ อิบนุ บาบะวัยห์ อัล กุมมีย์ หน้า 301-304 และอิอฺลาม อัลวะรอ ของ อบู อาลี ตัต ตอบรอซีย์ หน้า 152
*  รอฟิเฎาะฮฺอ้างแผ่นกระดานของฟาติมะห์ คือโองการที่ญิบรีลนำลงมาแก่ฟาติมะห์หลังจากท่านนบีเสียชีวิต และอาลีได้นั่งฟังโองการเหล่านี้ (ดู อัลกาฟีย์  เล่ม 1 หน้า 240-241) และนี่เป็นการปั้นแต่งและการโกหกที่ร้ายแรง เพราะวะห์ยูหรือการประทานโองการได้จบลงหลังจากที่ท่านนบีเสียชีวิต อย่างไรก็ตามพวกเขาถือว่าแผ่นกระดานนี้เป็นเหมือนอัลกรุอานในความเชื่อของชีอะฮฺ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น