เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
บล็อกนี้ เป็นบล็อกสำหรับทุกคนที่ต้องการรับรู้ถึงสังคมปัจจุบันว่ากำลังดำเนินไปในทิศทางใดและสังเกตุพฤติกรรมของมุสลิมในสังคมว่ามีสภาพว่าเป็นอย่างไร พร้อมกันนี้เพื่อนอิสลามจะคอยเป็นเพื่อนกับทุกท่านที่เข้ามาเยื่ยมชม ซึ่งสิ่งที่เราต้องการ คือ เป็นเพื่อนในอิิสลามของคุณตลอดไป และถ้าหากเห็นว่าบล็อกนี้มีประโยชน์ช่วยเม้นให้ด้วยนะ หรือ ถ้าหากจะต้องการเนื้อหาอะไรก็โพสได้นะครับ ยินดีเสมอครับ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่อเกี่ยวกับบรรดาอิมาม อย่างไร ?

รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่อเกี่ยวกับบรรดาอิมาม อย่างไร ?

รอฟิเฎาะฮฺอ้างว่าบรรดาอิมาม เป็นผู้ที่มะอฺศูม (ปลอดบาป)พวกเขาหยั่งรู้ถึงสิ่งที่เร้นลับต่างๆ   อัล กุลัยนีย์ ได้บันทึกใน อุศูล อัลกาฟีย์ จากอิมามญะฟัร อัลศอดิก ว่า : พวกเราเป็นคลังแห่งความรู้ของอัลลอฮฺ เป็นผู้แปลคำสั่งของพระองค์ พวกเราล้วนบริสุทธิ์และปลอดจากความผิดทุกประการ ทุกคนถูกสั่งให้เชื่อฟังเรา และห้ามทำผิดต่อเรา พวกเราเป็นหลักฐานอันชัดแจ้งของอัลลอฮฺ ต่อผู้ที่อยู่ใต้ฟากฟ้า และหน้าแผ่นดิน [1]
ในหนังสือดังกล่าว อัล กุลัยนีย์ ยังได้รายงานจากญะอฺฟัร อีกเช่นกันภายใต้บทที่ว่า บรรดาอิมามนั้นถ้าต้องการจะรู้สิ่งใดก็สามารถหยั่งรู้สิ่งในสิ่งนั้นกล่าวว่า : แท้จริงอิมามนั้นเมื่อใดที่อยากรู้ก็จะรู้ และแท้จริงพวกเขาจะรู้ว่าเมื่อใดพวกเขาจะเสียชีวิต และพวกเขาจะไม่ตายนอกเสียจากด้วยความต้องการของพวกเขาเอง [2]
โคมัยนีย์ ผู้ล่วงลับได้กล่าวในหนังสือของเขา ตะห์รีร อัลวะสีละห์ ว่า : แท้จริงบรรดาอิมามของเรามีหน้าที่ที่ประเสริฐ มีตำแหน่งที่สูงส่ง และเป็นผู้ปกครองโลกนี้ทั้งมวล และได้กล่าวอีกว่า แท้จริงสำหรับพวกเรา(อิมามสิบสอง)มีสถานภาพที่สูงส่ง ณ.อัลลอฮฺ แม้มลาอิกะฮฺหรือนบีไหนก็เทียบเคียงไม่ได้[3].
จนกระทั้งพวกชีอะฮฺรอฟิเฏาะฮฺได้คลั่งไคล้ถึงขั้นมีความเชื่อว่า บรรดาอิมามของชีอะฮฺนั้น ดีกว่าบรรดานบีทั้งหมดเว้นแต่ท่านนบีมุหัมมัดเท่านั้น อัลมัจลิซีย์ได้บันทึกในหนังสือของเขา มิรฺอาต อัลอุกูล ด้วยคำกล่าวที่ว่า แท้จริงแล้ว บรรดาอิมามทั้งหลายนั้น ย่อมดีกว่าบรรดานบีทั้งหมด ยกเว้นนบีมุหัมมัดของเราเท่านั้น[4]

ความคลั่งไคล้ของพวกชีอะฮฺไม่ได้มีเพียงดังที่กล่าวมาเท่านั้น แต่พวกเขายังเชื่ออีกว่า บรรดาอิมามนั้นคือผู้บริหารโลกนี้ทั้งมวล ดังที่ อัลคูอีย์ ได้กล่าวในหนังสือของเขา มิสบาห์ อัลฟุกอฮะฮฺ ว่า : สิ่งที่ปรากฏแจ่มแจ้ง คือ ไม่มีผู้ใดมาเทียบเทียงกับบรรดาอิมามได้ในบริหารโลกใบนี้ ดังที่มีสายรายงานมา เนื่องจากพวกเขาจึงได้มีการสร้าง พวกเขาเป็นเหตุในการสร้างมัคลูก(สิ่งที่ถูกสร้างทั้งมวล) หากไม่ใช่พวกบรรดอิมาม ก็จะไม่มีการสร้างมนุษย์ทั้งมวล เพราะการที่ได้สร้างมนุษย์ขึ้นมานั้นก็เพื่อบรรดา     อิมาม พวกเขาคือสาเหตุในการในการสร้าง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาคือผู้สร้างนอกเหนือจากอัลลอฮฺ การปกครองเช่นนี้เหมือนดังที่  อัลลอฮฺทรงได้ปกครองมัคลูก[5]
ด้วยพระองค์อัลลอฮฺ ข้าพเจ้าขอห่างไกลจากการเลยเถิดและบิดเบือนทางศาสนาเหมือนพวกชีอะฮฺดังกล่าว บรรดาอิมามเป็นสาเหตุในการสร้างมัคลูกได้อย่างไร?!! บรรดาอิมามเป็นเหตุในการมีเราได้เช่นไร?!! และมนุษย์ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการภักดีต่ออิมามของชีอะฮฺอย่างนั้นหรือ?!! ซึ่งอัลลอฮฺได้ตรัสในอัลกุรอานว่า
 ( وَمَا خَلَقتُ الجِنَّ وَالإنسَ إلا لِيَعبُدُونِ )
ความว่า ข้าพเจ้าไม่ได้สร้างญินและมนุษย์ นอกเสียจากเพื่ออิบาดะห์(จงรักภักดี)ต่อพระองค์อัลลอฮฺเท่านั้น                               [อัซซาริยาต 51:56]

ด้วยพระองค์อัลลอฮฺ ข้าพเจ้าขอห่างไกลจากความเชื่อดังกล่าวนั้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่บิดเบือนศาสนาและห่างไกลจาก  อัลกุรอานและสุนนะห์อันบริสุทธิ์

เชคคุลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺ ได้กล่าวว่า : พวกรอฟิเฎาะฮฺอ้างว่า ศาสนานั้นเป็นสิทธิของบรรดาผู้รู้และผู้นำศาสนา สิ่งหะลาลคือสิ่งที่พวกเขาว่าหะลาล และสิ่งที่หะรอมก็คือสิ่งที่พวกเขาว่าหะรอม ศาสนาก็คือสิ่งที่พวกเขาบัญญัติ [6]

 ถ้าท่านต้องการที่จะรู้ว่า พวกรอฟิเฎาะฮฺนั้นเข้าขั้นชีริก    กุฟุรและเลยเถิดเช่นไร ขออัลลอฮฺทรงให้เราแผ้วผ่านและห่างไกลจากสิ่งนั้น- ก็จงอ่านคำกลอนที่เขียนโดย อิบรอฮีม อัล อามิลีย์ ที่ยกย่องท่านอาลี ว่า :

โอ้อบูหะสัน ผู้เป็นตัวตน   แห่งพระเจ้า
ท่านคือเจ้า  ความเกรียงไกร  อันสูงล้น
ท่านผู้รู้  ความลึกลับ     ทุกแห่งหน
แม้มืดมน     มิปิดท่าน          ได้ดอกฤา
ท่านผู้คุม      วงล้อ      แห่งจักรวาล
ทั้งสายธาร      สิชล     ท่านครอบครอง
ชีวิตท่าน     ท่านเอง     เป็นเจ้าของ
แม้นท่านร้อง  สั่งให้ตาย วอดวายพลัน

อีกผู้หนึ่งที่เขียนบทกลอนยกย่องท่านอาลี เช่นกันคือ อาลี บิน สุลัยมาน อัล มะซีดีย์  ซึ่งมีว่า :

โอ้ อบูหะสัน ผู้เป็นคู่นางอันประเสริฐ
ผู้เป็นสีเคียงพระเจ้า และวิญญาณแห่งรสูล
เป็นจันทร์เพ็ญอันเรืองรอง เป็นทั้งตาวันแห่งปัญญา
เป็นบ่าวแห่งราชา ทั้งที่ท่านคือราชันย์
นบีเรียกหาท่านยามวันชีวันจะมลาย
ชี้แจงแถลงไขในวันแห่งฆอดิร
ว่าท่านนี้เป็นผู้นำเหล่าศรัทธาต่อจากเรา
ทั้งศักดิ์แห่งผู้นำก็มอบให้
กาลต่อไปทุกอย่างนั้นเพียงท่านครอง
โอ้ท่านผู้รู้ทุกสิ่งในทรวงอก
ท่านผู้เรียกให้ศพฟื้นจากสุสาน
พิพากษาวันกียามัตท่านจัดการ
ท่านคือผู้ฟัง ทั้งเห็นและรอบรู้
ท่านปรีชา และสามารถในทุกอย่าง
ปราศจากท่าน ไหนเลยดาวจะโคจร
ดาวทั้งมวลใหนเลยจะเคลื่อนตัว
ท่านผู้รู้ทุกสิ่งบนแผ่นดิน
ท่านผู้พูดกับชนผู้บันทึก
ไม่มีท่าน มูซาหรือจะพูด
มหาบริสุทธิ์โอ้ผู้สร้างท่านขึ้นมา
ท่านผู้เห็นความลับของชื่อท่านในสากล
ความรักท่านเจิดจรัสดั่งสุริยันที่ส่องแสง
ผู้เคียดแค้นตัวท่านและชิงชัง
เปรียบเหมือนดังชันยาเรือ ที่ดำปี๊
ผู้ใดที่ล่วงลับ และผู้ใดที่จะเกิด
ทั้งรสูล และบรรดาเหล่านบี
ทั้ง กอลัม ลุหฺมะหฺฟูซ และจักรวาล
บ่าวทุกนาม ล้วนเป็นสิ่งที่ท่านครอง
อบู หะสัน โอ้ ผู้คุมทุกสรรพสิ่ง
ที่พักพิงผู้ถูกขับและผู้แทน
ผู้แจกน้ำแก่คนรักในวันนั้น
ปฏิเสธท่าน ย่อมไม่เชื่อต่อวันฟื้น
อบู หะสัน โอ้ อาลี ผู้เกรียงไกร
ความภักดีที่ฉันมีส่องแสงจ้าในสุสาน
ชื่อท่านนั้นเป็นเครื่องหมายยามคับขัน
ความรักท่านนำพาฉันสู่สวรรค์ท่าน
ด้วยท่าน โอ้ อาลี ฉันได้เข้า
เมื่อการแห่งพระเจ้าผู้สูงส่งได้มาถึง
และเสียงเรียก ให้ไปแล้ว ให้ไปแล้ว
มีหรือท่านจะทิ้งขว้างผู้เคียงข้าง.

มีมุสลิมที่ยึดมั่นกับหลักคำสอนของอิสลามคนใดบ้างสามารถกล่าวบทยกย่อง(มนุษย์ด้วยกัน)เช่นนี้ ?  ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ แท้จริงชาวญาฮิลียะห์ ยังไม่ตกในการตั้งภาคีย์ (ชิรีก)  การปฏิเสธและความเลยเถิดถึงขั้นที่รอฟิเฎาะฮฺเป็นอยู่ดังที่เห็นนี้
*****


[1] ดู อุศูล อัลกาฟีย์  โดย อัล กุลัยนีย์  (1/165)
[2] หนังสือเล่มเดียวกัน (1/258)
[3] ตะห์รีร อัลวะสีละห์ โดย โคมัยนีย์ หน้า 52, 94
[4] มิรฺอาต อัลอุกูล ฟี ชัรฮิ อัคบาร์ อาล อัลรซูล โดย อัลมัจลิซีย์ 2/290
[5] มิสบาห์ อัลฟุกอฮะฮฺ โดย อบู อัลกอซิม อัลคูอีย์ (5/33)
[6] ดู มินฮาจ อัลสุนนะฮฺ โดย อิบนุ ตัยมียะห์ (1/482)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น