เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
บล็อกนี้ เป็นบล็อกสำหรับทุกคนที่ต้องการรับรู้ถึงสังคมปัจจุบันว่ากำลังดำเนินไปในทิศทางใดและสังเกตุพฤติกรรมของมุสลิมในสังคมว่ามีสภาพว่าเป็นอย่างไร พร้อมกันนี้เพื่อนอิสลามจะคอยเป็นเพื่อนกับทุกท่านที่เข้ามาเยื่ยมชม ซึ่งสิ่งที่เราต้องการ คือ เป็นเพื่อนในอิิสลามของคุณตลอดไป และถ้าหากเห็นว่าบล็อกนี้มีประโยชน์ช่วยเม้นให้ด้วยนะ หรือ ถ้าหากจะต้องการเนื้อหาอะไรก็โพสได้นะครับ ยินดีเสมอครับ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่อเกี่ยวกับ อัล ร็อจอะฮฺ (การฟื้นอีกครั้ง) อย่างไร?

รอฟิเฎาะฮฺมีความเชื่อเกี่ยวกับ อัล ร็อจอะฮฺ (การฟื้นอีกครั้ง) อย่างไร?

พวกรอฟิเฎาะฮฺเป็นผู้ที่กุความเชื่อนี้  อัล มุฟีด  ได้กล่าวว่า พวกอิมามิยะฮฺล้วนมีความเห็นว่า ผู้ที่ตายไปแล้วบางส่วนจำนวนมากต้องฟื้นขึ้นอีกครั้ง(ก่อนวันกียามัต) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ [1] นั่นก็คือในช่วงท้ายชีวิตโลก อิมามคนสุดท้ายที่พวกเขาเรียกว่า อัล กออิม (ผู้ยืนหยัด) จะออกมาจากที่หลบซ่อน และประหารศัตรูที่เป็นนักการเมืองทั้งหมด หลังจากนั้นจะคืนสิทธิทั้งหมดให้เป็นของชีอะฮฺ ซึ่งถูกแย่งชิงไปโดยพวกอื่นมาเป็นเวลานานหลายศัตวรรษ [2]
ซัยยิด อัร มุรตะฎอ ในหนังสือ  อัลมะสาอิล อัลนาศิริยะห์  ได้กล่าวว่า : อบู บักร และอุมัร จะถูกจับกางเขนบนต้นไม้ ในวันแห่งการปกครองของอัล มะห์ดี อิมามคนที่สิบสอง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ยืนหยัดแห่งครอบครัวมุหัมมัด ต้นไม้นั้นเป็นต้นไม้ที่เขียวสด แต่หลังจากที่คนทั้งสองถูกนำไปกางเขนไว้ มันก็จะแห้งตาย [3]
อัล มัจลิสซีย์ ในหนังสือ หักฺกุลยะกีน ได้รายงานจาก มุหัมมัด อัล บากิร ว่า : เมื่อกำเนิดมะห์ดี อาอิชะห์ก็จะฟื้นขึ้น เพื่อมารับการลงทัณฑ์ที่ผิดประเวณี [4]
ความเชื่อในเรื่องนี้ เติบใหญ่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขาเชื่อว่า ชีอะฮฺและบรรดาอิมามทุกคนของพวกเขา จะฟื้นขึ้นพร้อมกับคู่ปรับของพวกเขาทั้งหมด ความเชื่อนี้แสดงให้เห็นถึงความเคียดแค้นที่สุมอยู่ในหัวใจของพวกเขา และได้กลายมาเป็นเรื่องราวไร้สาระที่พวกเขากุขึ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือที่พวกสะบะอียะฮฺใช้ในการปฏิเสธวันอาคีรัต
            การฟี้นอีกครั้ง หมายถึง การที่ได้ล้างแค้นหรือแก้แค้นต่อผู้ที่เป็นศัตรูของชีอะฮฺ แต่แล้วใครคือศัตรูของชีอะฮฺ?? พี่น้องมุสลิมครับ การรายงานดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นถึงความอิจฉาริษยาของชีอะฮฺต่อมุสลิม และความจงรักภักดีของเขาต่อยิวและคริสเตียน
อัลมัจลิซีย์ ได้บันทึกในหนังสือของเขา บิหาร อัลอันวาร  รายงานจาก อบู บะศีร จาก อบู อับดุลลอฮฺ กล่าวว่า :  เขาได้บอกแก่ฉันว่า โอ้ อบู มุหัมมัด ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันเห็น การลงมาของท่าน อัลกออิม(ผู้ยืนยัด)สู่มัสยิด อัล ซะห์ละห์ พร้อมกับครอบครัวเขา... จนถึงคำพูดของเขาที่ว่า ฉันได้ถามว่า : แล้วพวกที่ไม่ใช่มุสลิมเขาจะได้รับการตอบแทนจากผู้ยืนยัดเช่นไร? อบู บะศีร ตอบว่า : ให้ความจำนนต่อพวกเขา เหมือนที่ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม ได้ให้จำนนต่อพวกเขาด้วยการที่พวกเขาต้องจ่ายภาษี ในขณะที่พวกเขาเป็นผู้ที่น่าเวทนา ฉันก็ได้ถามว่า แล้วใครคือศัตรูของพวกท่าน? เขาตอบว่า : โอ้ อบู มุหัมมัด!! ศัตรูนั้นคือคนที่ขัดแย้งต่อพวกเรา ในการปกครองของเรา แท้จริงแล้ว อัลลอฮฺได้หะลาลเลือดเนื้อของพวกเขา เมื่อใดที่ผู้ยืนยัดมาถึง แต่วันนี้ สิ่งดังกล่าวนั้นยังเป็นสิ่งที่ต้องห้ามสำหรับพวกเราและพวกท่านอยู่     เมื่อผู้ยืนยัดลงโทษพวกเขาเพื่ออัลลอฮฺ เพื่อรสูล และเพื่อพวกเราทุกคน ก็จะไม่มีใครมาล่อลวงท่านอีก[5]
พี่น้องมุสลิมดูซิครับ ว่าอิมามมะห์ดีย์ ของชาวชีอะฮฺ ได้ยอมจำนนทุกอย่างต่อยิวและคริสเตียน แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาทำสงความกับผู้ที่ไม่สอดคล้องกับพวกเขานั้นคือชาวสุนนะห์ มีคำกล่าวของชีอะฮฺผู้หนึ่งว่า นี้คือการตอบแทนต่อผู้ที่เป็นศัตรูต่ออะห์ลุ อัลบัยตฺ แต่ชาวสุนนะห์ไม่ได้เป็นศัตรู ดังนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องได้รับการตอบแทนด้วยการหลั่งเลือดจากอิมามมะห์ดีย์ ของพวกรอฟิเฏาะฮฺ
ผมขอเรียนให้ทราบว่า มีการรายงานจำนวนมากจากรอฟิเฏาะฮฺที่ยืนยันว่า อัลนาศิบะห์ คือชาวสุนนะห์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ได้จากหนังสือ อัลมะหาสิน อัลนัฟสานิยะห์ โดย หุเสน อาลา อุศฺฟูร อัลดารอซีย์ อัลบะห์รอนีย์, อัชชิฮาบ อัลซากิบ ฟี บายาน มะอฺนา อัลนาศิบ โดย ยูซุฟ อัลบะห์รอนีย์

*****



[1] ดู อะวาอิล มะกอลาต โดย อัล มุฟีด  หน้า 51
[2] ดู อัลคุตูต อัลอะรีเฏาะฮฺ   โดย มุฮิบบุดดีน อัล คอติบ   หน้า 80
[3] ดู อะวาอิล มะกอลาต โดย อัล มุฟีด  หน้า 95
[4] ดู  หักฺกุลยะกีน  ในหน้า 347
[5] ดู บิหาร อัลอันวาร โดย อัลมัจลิซีย์ 52/376

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น